10 พ.ค.65 นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข (สธ.) และ คณะผู้บริหาร สธ. เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อประชาสัมพันธ์นโยบายของขวัญผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี 65 “สาธารณสุขห่วงใย มอบของขวัญผู้สูงวัย ในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2565” เพื่อให้ผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคน ได้รับการดูแลด้านสุขภาพอย่างครบวงจร ด้วยของขวัญ 3 ชิ้น ในระบบบริการสุขภาพ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ รัฐบาลมีความห่วงใยสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ โดยของขวัญในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2565 จะเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ดูแลตนเองได้ และมีคุณภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
ขณะที่ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care ) ปี 2564 พบว่า มีตำบลที่มีระบบส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุในชุมชนที่ผ่านเกณฑ์ จำนวน 6,636 ตำบล จากทั้งหมด 7,255 ตำบล คิดเป็นร้อยละ 91.47 และมีผู้สูงอายุที่ได้รับการดูแลตาม Care Plan จำนวน 345,037 คน ดังนั้น ในปี 2565 ทางกรมจะสนับสนุนการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุ โดยผู้บริบาลผู้สูงอายุในระบบการดูแลในระยะยาว ได้แก่ ผู้จัดการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) จำนวน 16,000 คน และผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) จำนวน 100,000 คน เพื่อดูแลด้านสุขภาพอย่างครบวงจร
“ของขวัญผู้สูงอายุ” ในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี 65 ด้วยของขวัญ 3 ด้าน ตั้งแต่การคัดกรองความเสื่อมของร่างกาย โปรแกรมชะลอความเสื่อมของร่างกาย และ การสนับสนุนการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุ ก็ถือว่าเป็นนโยบายของ สธ. และรัฐบาลที่น่าชื่นชม ที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
ไม่ได้คิดว่า “ผู้สูงอายุ” เป็นภาระในเรื่อง “งบประมาณ” ให้กับรัฐบาล.