22 เม.ย.65 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้จัดให้มีการเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ จากกรรมการผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวม 363 คน (กรรมการเลือกตั้ง 242 คน แต่งตั้ง 121 คน) ที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์ จากผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน ส.อ.ท. ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธาน ส.อ.ท. คนใหม่ คนที่ 16 วาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี (2565-67)
จากนั้นนายเกรียงไกร ได้แถลงวิสัยทัศน์ แสดงถึงความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ได้รับแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมาก ค่าครองชีพของคนไทยจะสูงขึ้นอีกจากราคาน้ำมันที่รัฐบาลเตรียมปรับขึ้นราคาดีเซลในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ซึ่งต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงในปัจจุบันอยู่ที่ 41 บาท/ลิตรแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลปรับขึ้นราคาแบบขั้นบันได และอยากให้ตรึงอัตราการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 3 บาท/ลิตร ออกไปอีก 3 เดือน หากรัฐบาลไม่ดูแลราคาน้ำมันดีเซลจะส่งผลต่อค่าขนส่งขยับขึ้น 15-20% อาจทำให้สินค้าปรับราคาขึ้นอีกหลายรายการ
“ส.อ.ท.จะนำประเด็นข้อกังวลดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการคาแห่งประเทศไทย และ สมาคมธนาคารไทย ต้นเดือน พ.ค.นี้ ให้พิจารณา มาตรการลดค่าครองชีพ ลดเงินเฟ้อประชาชน และจะเสนอรัฐบาลขยายโครงการคนละครึ่งเฟส 5 เพราะจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้มากที่สุด”
“สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบให้ต้นทุนวัตถุดิบของผู้ประกอบการในประเทศสูงขึ้นนั้น ส.อ.ท.จะเร่งช่วยเหลือ โดยผลักดันโครงการ Supply Chain Security เพื่อทดแทนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ โดยมีแผนร่วมจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะหารือกับ บีโอไอ และ สกพอ. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการผลิตวัตถุดิบภายในประเทศได้” นายเกรียงไกรกล่าว
วิสัยทัศน์ของ “ประธานคนใหม่ ส.อ.ท.” ก็ถือว่าน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่งที่ได้มองถึงปัญหาเศรษฐกิจของไทยได้อย่างชัดเจนและรอบด้าน โดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนไปด้วยพร้อมๆกัน
ไม่ได้คิดถึงแต่ “ผลประโยชน์ของผู้ประกอบการ” แต่เพียงด้านเดียวเท่านั้น.