เมื่อเร็วๆนี้ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย และ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์แรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า สภาหอการค้าและหอการค้าไทย ห่วงใยสถานการณ์แรงงานของไทยในปัจจุบันมาก เพราะโควิด-19 ทำให้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านกลับประเทศหลายแสนคน
“แม้กรณีแรงงานไทยว่างงานจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ไม่สนใจทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมในตำแหน่งที่แรงงานต่างด้าวทำ โดยอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงงานมาก เช่น อาหารแปรรูป ถุงมือยาง อาหารและเกษตร จึงอยากให้ทุกหน่วยงานหาทางกระตุ้นให้แรงงานไทยที่ว่างงานอยู่มาทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น และที่น่าวิตกคือในอนาคต หากอุตสาหกรรมไทยเปลี่ยนใช้เครื่องจักรแทนคนทั้งหมด แรงงานไทยจะยิ่งตกงานมากยิ่งขึ้น” นายพจน์กล่าว
ขณะที่ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุด (28 ต.ค.) นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน รายงานการจัดส่งแรงงานไทยไปเก็บผลไม้ป่าในประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ ฤดูกาล 2020 เริ่มตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย.63 ที่ได้รับอนุญาตไปทั้ง 2 ประเทศ รวม 5,254 คน แยกเป็นประเทศฟินแลนด์ 2,014 คน สร้างรายได้ 182,655,000 บาท และ สวีเดน 3,210 คน สร้างรายได้ 435,686,720 บาท ก่อให้เกิดรายได้เข้าประเทศขั้นต่ำ 618,341,720 บาท
“ขณะนี้แรงงานไทยเป็นที่ต้องการของต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนสำคัญมาจากการบริหารจัดการโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีของไทย ทำให้ประเทศที่ต้องการนำเข้าแรงงาน มีความมั่นใจแรงงานจากไทยเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งเป็นโอกาสดีในการเพิ่มช่องทางให้แรงงานไทยได้มีตลาดทำงานในต่างประเทศมากขึ้น” นายอนุชากล่าว
จากตัวเลขการว่างงานของคนไทยในปัจจุบันที่สูงถึงกว่า 3 ล้านคน ขณะที่แรงงานต่างด้าวในภาคอุตสาหกรรมก็ขาดเป็นจำนวนมาก
เราจะแก้ปัญหาเรื่องของแรงงานนี้กันอย่างไร?.